เมนู

พระสัพพัญญุตญาณ จึงให้ทาน. ท้าวสักกะได้ทรงสดับคำของวิสัยหะ
นั้นแล้วดีพระทัยจึงเอาพระหัตถ์ลูบหลัง. เมื่อพระโพธิสัตว์พอถูก
ท้าวสักกะทรงลูบหลังในขณะนั้นนั่นเองสรีระทั้งสิ้นก็เต็มบริบูรณ์
และด้วยอานุภาพของท้าวสักกะ กำหนดเขตแห่งทรัพย์สมบัติทั้งหมด
ของพระโพธิสัตว์นั้นก็กลับเป็นไปตามปกติอย่างเดิม. ท้าวสักกะ
ตรัสว่าท่านมหาเศรษฐี จำเดิมแต่นี้ไป ท่านจงสละทรัพย์ 12 แสน
ให้ทานทุกวันเถิด แล้วประทานทรัพย์หาประมาณมิได้ไว้ในเรือนของ
พระโพธิสัตว์นั้น ทรงส่งพระโพธิสัตว์แล้ว เสด็จไปเทวสถานของ
พระองค์.
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุม
ชาดกว่า ภรรยาของเศรษฐีในครั้งนั้น ได้เป็นมารดาพระราหุล ส่วน
วิสัยหเศรษฐี ได้เป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาวิสัยหชาดกที่ 10

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ


1. โกกาลิกชาดก 2. รถลัฏฐิชาดก 3. โคธชาดก
4. ราโชวาทชาดก 5. ชัมพุกราดก 6. พรหาฉัตตชาดก
7. ปีฐชาดก 8. ถุสชาดก 9. พเวรุชาดก 10. วิสัยหชาดก
จบ โกกิลวรรคที่ 4

5. จุลลกุณาลวรรค


1. กุณฑลิกชาดก


เปรียบนารีด้วยท่าน้ำ


[662] บรรดานารีทั้งหลาย เป็นคนหลายใจ ไม่
มีใครสามารถจะข่มได้ ทำความยั่วยวนให้
แก่ชายทั้งหลาย ถ้าหากว่านารีทั้งหลายแม้จะ
ทำให้เกิดความปีติได้โดยประการทั้งปวง ก็
ไม่ควรไว้วางใจ เพราะว่านารีทั้งหลายเปรียบ
ด้วยท่าน้ำ.
[663] บัณฑิตได้พบเห็นเหตุคลายกำหนัด ของ
กินนรและนางกินนารีทั้งหลายแล้ว ก็พึงรู้
เสียเถิดว่า หญิงทุกคนย่อมไม่ยินดีในเรือน
ของตน ภรรยาได้ทอดทิ้งสามีผู้เช่นนั้นได้
เพราะไปพบเห็นบุรุษอื่นแม้เป็นง่อยเปลี้ย.
[664] พระมเหสีของพระเจ้าพกะและพระเจ้า
พาวริกะผู้หมกมุ่นอยู่ในกามเกินส่วน ยัง
ประพฤติล่วงกับชาวประมงคนใช้ผู้ใกล้ชิด